ธุรกิจ catering เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน เนื่องจากมีความต้องการใช้บริการจัดอาหารในงานต่างๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน งานบริษัท งานเลี้ยงต่างๆ หรือแม้แต่งานอีเว้นท์ในโรงแรม โดยต้องเป็นทีมที่มีความสามารถในการวางแผนและการจัดการ รวมถึงมีความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์เมนูอาหารที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละงาน นอกจากนี้ยังต้องมีการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและสดใหม่เพื่อให้ลูกค้าได้รับประทานเมนูอาหารที่อร่อยและคุ้มค่ากับราคาที่ลูกค้าได้จ่าย
นอกจากการจัดอาหารในงานอีเว้นท์ ธุรกิจ catering ก็ยังมีให้บริการอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การจัดเลี้ยงส่วนตัว รับทำอาหารกล่อง หรือบางที่ก็มีบริการให้เช่าอุปกรณ์ในงาน เช่น เก้าอี้ โต๊ะ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานนั้นๆ
ดังนั้นด้วยความที่ธุรกิจ catering มีความหลากหลายในการให้บริการ รวมถึงมีการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัย ฉะนั้นการเป็นมืออาชีพและมีบริการที่มีคุณภาพ จะช่วยทำให้ธุรกิจ catering เติบโตอย่างมากในอนาคต
แล้วการปรับตัวของธุรกิจ catering ให้คงมาตรฐานเดิมหลังจากวิกฤตโควิด-19 ต้องทำยังไงบ้าง?
เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ได้กระทบกระเทือนต่อธุรกิจ catering เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีการออกกฎหมายห้ามจัดงานที่มีคนรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยไอเดีย ความคิดใหม่ๆ ทีค่อยๆ เริ่มผุดขึ้นมาของผู้ประกอบการธุรกิจ catering ที่สามารถปรับตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้ ทำให้ธุรกิจ catering ยังคงดำเนินกิจการได้ต่อไม่ว่าจะก่อนหรือหลังช่วงโควิด-19
และหนึ่งในวิธีการปรับตัวของธุรกิจ catering ในช่วงโควิด-19 คือการเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ โดยการเพิ่มระบบการส่งอาหารถึงบ้าน หรือเปิดตัวเมนูใหม่ที่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น อาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อาหารที่ทำให้ร่างกายและสมองแข็งแกร่ง ซึ่งสามารถเพิ่มความน่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าได้ และนอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนวิธีการจัดงานเป็นแบบออนไลน์หรือจัดงานแบบเล็กๆ ที่มีจำนวนคนเข้าร่วมน้อยลง รวมถึงการนำเสนอรูปแบบการจัดงานใหม่ๆ เพื่อให้ตอบสนองความต่อต้องการของลูกค้าและทำให้ลูกค้าประทับใจเมื่อมาใช้บริการ
แล้วมีวิธีการรับมือเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้อย่างไร?
วิธีการรับมือ คือ การปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ โดยการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารและการขายสินค้า การพัฒนาเมนูอาหารใหม่ๆ หรือการรับงานจัดเลี้ยงในปริมาณน้อยกว่าเดิม ทำให้ธุรกิจ catering สามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมได้ นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจเพื่อให้ใช้ทรัพยากรและความสามารถในการผลิตสินค้าให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้มีรายได้อย่างต่อเนื่อง และนอกจากนี้ ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการสุขอนามัยอย่างเคร่งครัดเช่นกัน เช่น การวัดอุณหภูมิร่างกายของลูกค้า การให้มือถือและเครื่องฆ่าเชื้อแบคทีเรียในพื้นที่ทำงาน มีการสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่มีการติดต่อกับลูกค้า เป็นต้น ทั้งยังต้องมีความคิดสร้างสรรค์และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้นการปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจ และการปฏิบัติตามมาตรการสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะทำให้ธุรกิจ catering สามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมได้ และสามารถเติบโตเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในอนาคตได้อย่างยั่งยืน
